JustMakeWeb.com รับทำเว็บไซต์ รับทำเว็บโรงแรม รับทำเว็บขายของ รับทำเว็บบริษัท เว็บสำเร็จรูป รับทำเว็บร้านค้า ออกแบบเว็บไซต์ ใช้งานได้ง่าย รองรับ SEO โปรโมท GOOGLE ให้ติดอันดับได้อย่างรวดเร็ว , ลงโฆษณาฟรี VPS ราคาถูก
รับทำเว็บไซต์
0
สถิติเว็บไซต์
เปิดเว็บเมื่อ : 2007-03-05
จำนวนสมาชิก : 578 คน
ปรับปรุงเมื่อ : 2024-04-04
จำนวนครั้งที่ชม : 13,086,951 ครั้ง
Online : 29 คน
จำนวนสินค้า : 331 รายการ
ทะเบียนพาณิชย์
สนใจ สงสัย ไลน์ มาได้

 
  ID ระบบ : @440aburo
ร้านค้า
ถูกใจ Like เลย
มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า จดทะเบียน
รวมบทความและผลงาน
โฆษณา Google Adsense


พื้นที่โฆษณา แลกลิ้งค์




เรื่องน่ารู้การเกี่ยวกับใช้แบตเตอรี่ในยานยนต์ไฟฟ้า

2011-08-30 17:07:33 ใน จักรยานไฟฟ้า » 0 26901
  อนึ่งขอเรียนให้ทราบว่าแบตเตอรี่ในบทความข้างล่างนี้ หมายถึงประเภท ดีปชาร์จไซเคิล หรือดีปไซเคิล ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า รถกอล์ฟไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งต่างจากแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ทั่วไป 

  ปัญหาของ BATTERY นั้นนับว่าเป็นภาระที่หนักสุด เนื่องจากนับวันราคาจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ (ไม่มีโอกาสถูกลงเหมือนสินค้าประเภทอีเลคโทรนิค) และไม่สามารถซ่อมได้ ถ้าปัญหาทั้งสองนี้ได้รับการแก้ไขเมื่อไรหรือให้ลดน้อยลงก็นับว่ายานยนต์ไฟฟ้านี้เป็นยานยนต์ที่น่าใช้มากที่สุด
 
ปัญหาจากระบบ BATTERY หลังจากการใช้งานไประยะหนึ่งส่วนใหญ่ภายใน 6 เดือนจะมีอาการผิดปกติจนค่อย ๆ สังเกตได้คือเมื่อชาร์ทไฟเต็มแล้ว (ที่เครื่องชาร์ทจะมีสัญญาณไฟบอกสภาวะการชาร์ทว่า BATTERY เต็มเป็นสีเขียว) เมื่อนำรถไปใช้จะรู้สึกว่า BATTERY หมดเร็วกว่าปกติ หรือบางครั้งสังเกตได้ว่าการชาร์ท BATTERY แต่ละครั้งใช้เวลาไม่นานก็เต็มแล้วและเนื่องจากเครื่องชาร์ทที่ติดมากับรถเกือบทั้งหมดเมื่อตรวจจับได้ว่า BATTERY เต็มแล้วจะตัดระบบการชาร์ทออกทันทีไม่ว่าเราจะทำการชาร์ททิ้งไว้กี่ชั่วโมงก็ตามก็จะไม่มีกระแสไฟเข้าไปในระบบอีก(เป็นอุปกรณ์ชาร์ทไฟชนิด SMART CHARGER ในระดับพอใช้ได้แต่ไม่ให้ผลดีต่อ BATTERY ในระยะยาว)จากเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อนานเข้าก็จะมีอาการมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงขั้นเข้าสภาวะชาร์ทไฟเต็มแล้วใช้งานได้เพียงนิดเดียว ผู้ใช้หลายคนเข้าใจว่านี้คือ การเสื่อมของBATTERYหรือ BATTERYนี้เกิดอาการ MEMORY EFFECT (BATTERY ชนิดนี้ไม่มีปรากฏการณ์ MEMORY EFFECT)และต้องเปลี่ยนใหม่ในที่สุด หรือตั้งข้อสงสัยว่าคงเป็นเพราะคุณภาพของ BATTERYไม่ดีจึงทำให้อายุการใช้งานสั้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นกับผู้ใช้ยานยนต์เหล่านี้เสมอ และมีผลกระทบไปถึงความต่อเนื่องของธุรกิจ วงจรชีวิตของ BATTERY ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานคือการ DISCHARGE (นำพลังงานไฟฟ้าไปใช้) และการ RECHARGE (การชาร์ทไฟเข้า BATTERY) สากลกำหนดให้ใช้ C RATING

C RATE CHARGE และ C RATE DISCHARGE
  1. C RATE นี้จะมีความสัมพันธ์กับเวลา รวมถึงมีความสัมพันธ์กับปฏิกิริยาเคมีของ BATTERY โดยตรง ดังนั้นค่า C RATE จึงถูกนำมาใช้ในการกำหนดชี้วัดการใช้งานของ BATTERY (LIFE CYCLE) เช่น
    BATTERY ขนาด 12V. 10AH.จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับ LOAD
    1C RATE หมายความว่า BATTERY ตัวนี้จ่ายกระแสไฟฟ้าที่ 10A.ต่อเนื่องที่ 1ชั่วโมง หรือ
    0.5C RATE หมายความว่า BATTERY ตัวนี้จ่ายกระแสไฟฟ้าที่ 5A.ที่ 2ชั่วโมง หรือ
    0.1C RATE หมายความว่า BATTERY ตัวนี้จ่ายกระแสไฟฟ้าที่ 1A.ที่ 10ชั่วโมง เป็นต้น
  2. ในการชาร์ทไฟกลับก็เช่นเดียวกันคือชาร์ทไฟให้กับ BATTERY ขนาด 12V. 10AH.ที่ 1C RATE หมายความว่า
    จ่ายกระแสไฟฟ้าเข้า BATTERY ที่ 10A.เป็นเวลา1 ชั่วโมง หรือ
    0.5C RATE หมายความว่า จ่ายกระแสไฟฟ้าเข้า BATTERY ที่ 5A.เป็นเวลา2 ชั่วโมง หรือ
    0.1C RATEหมายความว่า จ่ายกระแสไฟฟ้าเข้า BATTERY ที่ 1A.เป็นเวลา10 ชั่วโมง เป็นต้น
     
    การชาร์จแบตเตอรี่
         ในการชาร์ท BATTERY ที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุดและนิยมใช้กันอยู่ทุกวันนี้คือการชาร์ทที่ 0.1ถึง0.2 C RATE ซึ่งค่าดังกล่าวจะให้ประสิทธิภาพในการชาร์ทไฟกลับดีที่สุด และไม่ทำให้ BATTERY อายุสั้นลง ในการใช้งานผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ BATTERY เรามักได้ยินคำว่าหรือได้รับคำแนะนำว่าต้องชาร์ท 2ชั่วโมงบ้าง 4-6ชั่วโมงบ้าง ความหมายเหล่านี้ก็ถูกอ้างอิงมาจากค่า C RATE นั้นเอง โดยทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับ OUTPUT RATING ที่เครื่องชาร์ทของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ และสัมพันธ์กับ AH.ของ BATTERY เช่น BATTERY ขนาด 12V. 10AH. ถูกกำหนดให้ชาร์ทตามมาตรฐานที่0.2C RATE นั้นคือ OUTPUT RATING ของเครื่องชาร์ทเท่ากับ2A.และใช้เวลาในการชาร์ท 5ชั่วโมง สำหรับกรณีที่ BATTERY หมดไฟแล้ว และถ้ากรณีการชาร์ท BATTERY ที่ยังมีไฟเหลืออยู่เวลาในการชาร์ทอาจน้อยกว่านี้
     
    BATTERY ที่ใช้งานมาระยะหนึ่งสภาวะทางปฏิกิริยาเคมีจะเปลี่ยนไป เช่น สภาพของแผ่นธาตุมีการจับตัวของ SULPHUR เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นการชาร์ทไฟในการใช้งานปกติจึงไม่สามารถทำลายการจับตัวของ SULPHUR ได้หมด และเมื่อเวลาเพิ่มขึ้นจึงเปรียบเสมือนว่าชาร์ทไฟแล้วไม่เต็มและนำมาซึ่งความเสื่อมของ BATTERY ในที่สุด ในข้อปฏิบัติทางทฤษฎีกำหนดให้ต้องเปลี่ยน RATING ทาง POWER ของการชาร์ท ใหม่ เป็นต้นว่า เพิ่ม VOLTAGE และเวลาในการชาร์ทเพิ่มขึ้นเป็นครั้งคราว แต่ในทางปฏิบัติสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปไม่สามารถทำได้ เราจึงพบกับปัญหาการทำงานของ BATTERY มักเสื่อมเร็วกว่าปกติ วิธีการแก้ปัญหานี้ถ้าสามารถทำได้ให้นำ BATTERY ไปทำการชาร์ทที่ร้านทำธุรกิจเกี่ยวกับ BATTERY อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง หรือ อีกวิธีหนึ่งหลังจากการใช้งานรถไฟฟ้า ให้ทำการชาร์ท BATTERY ในทันทีทุกครั้งไม่ว่าระดับไฟใน BATTERY จะเหลืออยู่เท่าไหร่ก็ตาม
  
กรุณาเข้า สู่ระบบ ก่อนทำการเขียนข้อความ